4.3.53

ลูมอส!! ตอนที่ 1

ลูมอส!! ใครเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ย่อมรู้จัก "ลูมอส" ดี เมื่อพ่อมดน้อยตะโกนว่าคาถานี้ แสงไฟจากปลายไม้กายสิทธิ์จะสว่างจ้า "นำทางได้" ณ วันนี้ อยากจะจุดไฟให้ใครหลายคน(ไหนๆ ก็พกติดมาแล้ว) หลังจากที่ตัวเองได้มีโอกาสอ่านหนังสือ 2-3 เล่ม ยามว่างตอนพำนักอยู่ที่วัด
ส่วนสิ่งที่พระอาจารย์พระสาสนโสภณได้ถ่ายทอดคำสอนให้นั้น กะลังอยู่ในขั้นถอดความ เพราะพอเอาเข้าจริง ลายมือตัวเองนี่แหล่ะ ทำให้โปดโหเป็นที่สุด เมื่อ "ความรู้" ถูกแปลงเป็นเสียงแล้วมากระทบโสตประสาทการรับรู้ของเรา มันก็เป็นหน้าที่ของสมองต้องสั่งให้มือจดยิกๆ พัลวันจนพันกันเป็นระวิง
~~ ไว้ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ละกัน :)


มีการเป็นทาสชนิดหนึ่ง ที่ไม่ต้องเลิก
ยิ่งมีมากยิ่งดี ยิ่งถ้าเป็นกันทุกคนด้วยแล้ว
โลกจะยิ่งมีสันติภาพ ไร้วิกฤติกาล
นั่นคือ การเป็นทาสของพระพุทธองค์ เรียกว่า "พุทธทาส"
------------------------------------
การศึกษาต้องดูมาจากข้างใน
แล้วเอาออกมาบังคับข้างนอก
ไม่ใช่ดูจากข้างนอก แล้วเอาไปบังคับข้างใน
บังคับเข้าไป อัดเข้าไป มันก็ไม่ถูกเรื่อง
มันเข้าไปไม่ได้ เพราะมันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร
------------------------------------
การทำงานด้วยจิตว่างนั้น
รวมความถึงการที่ไม่ยอมรับผลานมาเป็นของเราด้วย
เพราะว่า "ผลงาน"
มันเหมือนเป็นทรัพย์สมบัติ เกียรติยศ ชื่อเสียง
หรืออะไรๆ ที่เป็นที่ต้องใจ เป็นที่หลงไหล
มันต้องไม่อยู่กับสิ่งเหล่านี้
ถ้าไม่ยกผลานให้ความว่าง
จิตมันก็จะพอกพูนเพิ่มขึ้น
ขยายออกไปไม่มีที่สิ้นสุด
------------------------------------
เราจะต้องแสวงหาความสุขในการทำงาน การงาน
แสวงหาความสุขในการบังคับตนให้อยู่ในร่องในรอย
คือ แสวงหาความสุข เมื่อรู้สึกว่าตัวกำลังทำหน้าที่ของมนุษย์
อย่าไปหาความสุข เมื่อรู้สึกว่าตัวกำลังทำหน้าที่ของมนุษย์
อย่าไปหาความสุข ต่อเมื่อทำงานแล้ว เงินเดือนออกแล้ว
เอาเงินเดือน ไปกิน ไปเล่นกัน ให้หัวหกก้นขวิด มีความสุขที่นั่น
นั่นมันเป็นเรื่องบ้าหลัง
และจะไม่เป็นความสุขชนิดที่จะนำไปสู่ความสงบเย็นได้
มีแต่จะทำให้ร้อนยิ่งขึ้น
-------------------------------------
ในการบำรุงพระศาสนานั้น
จะบำรุงให้ถูกตัวศาสนาจริงๆ แล้ว
ก็คือตัวเองรับปฏิบัติธรรมมะ
ให้ถูกให้ต้องเสียโดยเร็ว
นั่นคือ การบำรุงพระศาสนาที่ถูกต้องและรวดเร็ว
การทำงานโดยหวังจะได้อะไรตอบแทนนั้น
มันเป็นเรื่อง ตัวกู-ของกู ที่ทำกันจนเคยชิน
ถ้ามีใครคอยดู คอยจะให้รางวัลอยู่ ก็ทำดี
พอไม่มีใครแอบดูอยู่ก็ทำอีกอย่างหนึ่ง
หรือทำต่อหน้าคนที่มีอำนาจ หรือคนรักใคร่ แล้วก็ทำดี
ลับหลังก็ทำอีกอย่างหนึ่ง
มันก็เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก
แล้วอย่าไปหวังว่างานนั้นมันจะดี
----------------------------------
เคล็ดลับของการทำงานด้วยจิตว่าง
คือทำให้การงานเป็นของสนุก
ถ้าทำงานด้วยจิตวุ่น
การงานก็กลายเป็นของทุกข์
อย่าไปรับภาระหน้าที่เกินความสามารถของตน
ให้ความสามารถมันเจริญงอกงามไปก่อน
จึงค่อยขยายหน้าที่ความรับผิดชอบตามออกไป
เดี๋ยวนี้มักจะอวดดี
กล้ารับมอบหมายนั่นนี่เข้ามา เกินความสามารถของตน
ก็เลยทำงานแบบผักชีโรยหน้า หน้าไหว้หลังหลอก
มันก็เสียหายกันใหญ่โต
----------------------------------
ถ้าถือตามหลักพระพุทธศาสนา
มันมีหลักที่วางไว้ใช้ได้ทุกกรณีว่า
การที่จะรู้อะไร เพื่อชนะสิ่งนั้น
เราจะต้องรู้อย่างน้อย 3 อย่างเสมอ
คือ รู้อัสสาทะ - รสอร่อยที่มันใช้สำหรับลวงคน
รู้อาทีนวะ - คือโทษของความเลว ความอะไรของมัน ที่มันทำอันตรายคน
รู้นิสสรณะ - คืออุบายที่จะมีอำนาจเหนือสิ่งนั้น
ภาษาธรรมดาก็เรียกว่า "ลูกไม้"
ที่เราจะเป็นผู้ชนะต่อสิ่งนั้น
------------------------------------
จากหนังสือ "คมธรรม ท่านพุทธทาส" โดย ไพโรจน์ อยู่มณเฑียร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น