7.2.53

มาเฟียปลอม!!

บุปเพสันนิวาสนำพาให้เดินทางไปพบกับเจ้าหนูมาเฟียซ้ำสอง จากการเดินทางไปสำรวจจุดหมายปลายทางของโครงการเสื้อผ้าลดโลกร้อนครั้งที่ 3 เมื่อประมาณปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และส่งผลต่อเนื่องให้ได้มีโอกาสกลับไปอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 6 ก.พ. ซึ่งก็เพิ่งจะผ่านไปหมาดๆ ~~การไปเยือนวัดป่าส้านในครั้งนี้ รู้สึกแปลกๆ ที่ตัวเองยังคงสอดส่ายสายตามองหาเจ้าหนูมาเฟีย ทั้งที่ครั้งก่อนก็ไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ ได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็แอบเก็บภาพมา ตามประสาคนเพิ่งพบกัน หากจะเกิดอาการเหนียมอายไปบ้างนั้น ก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา :)

บางครั้งก็ตอบตัวเองไม่ได้ ว่าที่รู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ มันเกิดจากอะไร คำว่า "ถูกโฉลก" อาจจะใช้ได้กับปรากฎการณ์นี้ เพราะยิ้มจริงใจที่อวดเหงือกอันเรียวงามของเจ้าหนูคงไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดอะไรนักหนา แต่ทำไมมาเฟียถึงวิ่งนำหน้าคว้าเส้นชัยเข้ามานั่งอยู่กลางใจเราได้ก็ยากที่จะให้เหตุผลจริงๆ

มาเฟีย ตามฉายาที่หลวงพ่อได้สถาปนาให้(ซึ่งได้มาจากสาเหตุใด.. อันนี้ก็ไม่รู้อีก) หรือ น้องโคน ตามที่ได้ยินน้องกุ้งเรียก เป็นเด็กชายตัวเล็ก หน้านิ่งๆ แต่เมื่อได้สบตา เค้าจะโปรยยิ้มหวานจริงใจให้โดยไม่ต้องรองขอ พบมาเฟียครั้งแรกในหมู่บ้านเทพประทาน เพราะมาเฟียโดดเรียน แล้ววิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน เมื่อเราไปถึง มาเฟียก็วิ่งมาใกล้ๆ พร้อมกับทำทีท่าเขินอาย พอหลวงพ่อตามมา มาเฟียก็กระโดดให้หลวงพ่ออุ้มทันที ภาพที่เห็นมันส่งความอบอุ่นจางๆ มาถึงเราด้วย

พบกันครั้งที่ 2 มาเฟียใส่เสื้อและกางเกงตัวโคร่ง เดินเท้าเปล่าอยู่ในวัด มารู้ทีหลังว่าจะขึ้นเวทีแสดงให้พวกเราดูด้วย ก็ตอนที่เจ้าหนูที่เดินไปเดินมาหลายรอบแล้ว หลังจากที่รู้ก็มองไปที่โต๊ะของรางวัล แล้วคาดคะเนว่ามาเฟียจะอยากได้อะไรระหว่างหุ่นยนต์ที่ประกอบชุดนู่นนี่ได้ กับเครื่องบินลำใหญ่ที่ให้ประกอบเองเหมือนกัน ในใจคิดว่า เจ้าหนูคงจะอยากได้เครื่องบินมากกว่า เพราะดูลำใหญ่และคล้ายของจริง ก่อนมาเฟียจะได้แสดง ก็เห็นเจ้าหนูเที่ยวเดินไปเดินมารอบๆ ยืนพิงขอบประหนึ่งหนุ่มกลัดมันที่เฝ้ามองดูสาวๆ นั่งก็แล้ว ยืนก็แล้ว กว่าจะถึงคิวการแสดงของตัวเองก็เล่นเอามาเฟียดูเหี่ยวๆ ไปเหมือนกัน

มาเฟียยิ้มแก้มปูดเมื่อเต้นเสร็จ และได้รับเครื่องบินเป็นของรางวัลตามผลงานที่ได้แสดงผ่านไป เดินกอดกล่องเครื่องบินอยู่อย่างนั้นไม่ยอมแกะดู แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฎ "มาเฟีย ที่แท้ หาได้เป็นมาเฟีย ตามชื่อเสียงเรียงนามไม่"

เพราะก่อนกลับบ้าน ได้ยินเสียงเด็กร้อง ในระหว่างที่ชาวบ้านและเด็กๆ คนอื่นๆ กำลังลองชุดจากกล่องบริจาคที่เราเอาไปให้ เข้าไปดูที่เกิดเหตุตามต้นเสียง จึงเห็นเจ้าหนูมาเฟียยืนร้องไห้จนเหงือกแห้งและสั่นระริก เพราะโดนเจ้าหนูหน้าดุคนนี้แย่งเครื่องบินไป โดยไม่ได้สนใจเสียงร้องและเหงือกอันสั่นระริกนั้น ..
เห็นทีท่าไม่ดีเลยรับอาสาเข้าเกลี้ยกล่อม หวังให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับโดนเจ้าหนูหน้าดุเม้งใส่ด้วยอาการนิ่งๆ (อาจจะนิ่งสยบความเคลื่อนไหว) เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหนูหน้านิ่งร้องไห้ตามกันไปอีกคน เลยสงบศึกด้วยการบอกน้องกุ้งให้เอาเครื่องบินที่เหลือมาให้เจ้าหนูมาเฟียซะ มาเฟียได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ แต่ตาก็ยังคงจ้องมองเครื่องบินลำที่ตัวเองได้มา และอาจจะคิดอยู่ในใจ "เต้นแทบตาย โดนแย่งไปซะงั้น" เสียชื่อหมด!!

คิดถึงจัง.. เจ้าหนูมาเฟีย(ปลอม)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น