1.4.53

แอบดูพิราบช่วยชีวิต ..




เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตมี ปฏิบัติการพิราบ..ช่วยชีวิต แถนแถ่น ที่ได้เชิญชวนพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชน จังหวัดภูเก็ตมาร่วมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตของกระผม โดยทีมเจ้าหน้าที่จากศูนย์หัวใจได้ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานและเยาวชนภายในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ภายใต้การนำของคุณหมอโสภณ ผอ.ศูนย์หัวใจ รพ.กรุงเทพภูเก็ต ผู้ใจดี และสมาคมแพทย์โรคหัวใจในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งภารกิจนี้จะมีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ที่เข้ารับการอบรมทีสอบผ่านทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติด้วย เพื่อเป็นการการันตีความรู้ที่ได้ร่ำเรียนไปค่ะ..

พี่ๆ น้องๆ ทะยอยมาที่รพ.ตั้งแต่เช้า นัด 9 โมง 8 โมง พี่พงศ์ประธานชมรมก็ถึงรพ.แล้ว แต่จุ๊บๆ ยังวิ่งหูตูบสแกนมือเข้าทำงานอยู่เลยอ่ะ :) อากาศวันนี้ค่อนข้างดี ถึงดีมาก ในเวลา 9 นาฬิกา หลังจากหมอก้องกล่าวต้อนรับพี่ๆ น้องสื่อมวลชนพิราบน้อยเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาร่ำเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราว เริ่มต้นจากทฤษฎีแล้วค่อยต่อด้วยภาคปฏิบัติ ฝึกกันจริงๆ เป่ากันจริง กดกันจริง พลิกกันจริงๆ งานนี้ได้ออกสะเก็ดข่าวเพราะพี่พงศ์เล่นพลิกตัวหุ่นด้วยท่าพิสดารแท้ๆ หุหุ ขำๆ

บรรยากาศภายในห้องประชุมคิง คาร์ล กุสตาฟ ดูอบอุ่น เป็นกันเองและสนุกสนาน พี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ต่างก็ตระหนักดีว่า เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินขึ้น "ความช่วยเหลือที่มาพร้อมกับความถูกต้องปลอดภัยและทันท่วงที" นั้น สำคัญที่สุด หลายครั้งสื่อมวลชนต้องอยู่ใกล้กับผู้บาดเจ็บในระหว่างที่ปฏิบัติงาน การอบรมในครั้งนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับบรรดานกพิราบเหลืองอ่อน วันดีคืนดีพวกเราอาจจะต้องพึ่งพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนก็ได้ ใครจะไปรู้ เพราะปกติสื่อมวลชนนั้นทำงานว่องไว เดินทางถึงที่เกิดเหตุก่อนใครๆ อยู่แล้วนิเนอะ (สถานการณ์มันบังคับ)..

ตะโกนขอคนช่วย โทรแจ้งโรงพยาบาล ประเมินลมหายใจ เป่าปาก ปั๊มหัวใจ ขั้นตอนง่ายๆ ที่สามารถช่วยชีวิตคนได้หลายร้อยคน การเรียนเรื่องประมาณนี้ ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมันก็ดูอบอุ่นไปอีกแบบ ถึงแม้จะหัวเราะกันเยอะแค่ไหน แต่พอบทจะเอาจริงขึ้นมา พี่ๆ น้องๆ ก็ทำได้ดีเลยค่ะ :)

และสุดท้ายที่เพิ่งรู้ ก็คือ รพ.เรามีหุ่นสำหรับเอาไว้สอนช่วยชีวิตมากเป็นอันดับหนึ่งในประเทศ จากปากคำของหมอก้องคนเก่ง .. มิน่า!! ถึงได้ตระเวนสอนไปจนทั่วราชอาณาจักรมาหลายปีดีดักแล้ว จะว่าไปอันตัวข้าพเจ้าเอง ก็เคยเรียน เคยสอบ เคยเป่า เจ้าหุ่นหน้าขาวครึ่งตัวมาแล้ว ได้รับประกาศนียบัตรมาแล้วด้วย เพราะเป็นหลักสูตรบังคับที่ฝ่ายพัฒนาบุคคลากรกำหนดไว้ให้เจ้าหน้าที่ BPK ทุกคน "ต้องเรียน" แต่ถึงจะเคยเรียนมาแล้วแต่เราก็ยังไม่รู้เลยว่าทางโรงพยาบาลฯ มีหุ่นและบุคคลากรที่พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้เหล่านี้ให้ผู้อื่นชนิดที่เรียกว่า "พร้อมมาก" เพราะรู้แค่เพียงอย่างเดียว คือ "พวกเราได้ลงมือทำมันอย่างจริงจัง สอนทุกคนด้วยความจริงใจ" ซึ่งก็คิดว่าเท่านี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้วนะในความคิดแบบเด็กๆ อย่างเรา

เพราะหุ่นเยอะหรือน้อยมันคงไม่สำคัญมากไปกว่าความมุ่งมั่นที่พวกเราได้ลงมือทำกันอยู่นี้ ทั้งคนที่ตั้งใจมาสอน และคนที่ตั้งใจมาฝึกปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้มันน่าจะสานต่อสิ่งดีๆ ไปได้อีกยาวนาน อาจจะเกิดประโยชน์กับผู้ที่ประสบเหตุได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่พวกเราก็ภาคภูมิใจแล้วค่ะ

ชมภาพบรรยากาศได้ที่นี่ครับผม!!http://picasaweb.google.com.au/jubjub.picc/tXBiEL#

และขอชื่นชมพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชน จังหวัดภูเก็ตทุกท่าน จากใจจริงคับ ~~ jubjub

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น