ภาพบรรยากาศวันที่ 3 เม.ย. 2553
http://picasaweb.google.com.au/jubjub.picc/NbFYFF#
เสร็จสิ้นภารกิจรับบริจาคหนังสือและของเล่นในโครงการทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่น เพื่อห้องสมุดเด็กวัดสามัคคีธรรม(ป่าส้าน) อ.คุระบุรี จ.พังงา เป็นที่เรียบร้อย โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ตอนเย็นๆ พวกเราก็เริ่มลำเลียงหนังสือและของเล่นทั้งหมดมาบรรจุในรถตู้ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากพี่กระแต(นนทลี มรรคาวาณิช ประธานมูลนิธิมรรคาวาณิช) โดยมีพี่จุ๋ม (ปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะ) ไปขับรถตู้มารับของด้วยตัวเอง แถมเฉลยด้วยว่า พรุ่งนี้พี่จะขับไปเองด้วยค่ะคุณน้อง
พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยจุ๊บๆ ขนของด้วยจิตใจเบิกบานเหมือนเดิม เดินไปเดินมาไม่กี่รอบ ของทุกอย่างทั้งหนังสือและน้องหมีก็ได้ไปอยู่บนรถตู้โดยสวัสดิภาพ(แบบเต็มๆ) ที่ยัดในรถตู้ไม่ไหวแล้วก็เอามาวางหลังรถกระบะอีก 1 คัน ซึ่งจุ๊บๆ เองก็จะได้ขับตามพี่จุ๋มไปเช่นกันในวันที่ 3 เม.ย. ตามเวลานัดหมายคือ 6.30 น.
เช้าตรู่วันที่ 3 เม.ย. เวลาประมาณ 06.00 น. ในยามที่ลุงๆ ป้าๆ มาเดินออกกำลังกายบริเวณลานจอดรถของรพ. จุ๊บๆ ก็เดินทางถึงโรงพยาบาลฯ อันเป็นที่รัก เดินไปเอารถมาจอดรอเตรียมพร้อมด้านหน้า OPD ก็มีป้าแป๋วและเพื่อนสาวรออยู่แล้ว ไม่นานพี่แคท อาสาสมัครอ่านหนังสือเสียงเพื่อคนตาบอด น้องกิ๊กและน้องเกด อาสาสมัครจาก Starbuck ก็เดินทางมาถึง พร้อมกับคำทักทายที่ทำเอาจุ๊บๆ งง ไปชั่วขณะว่า “ที่จะไปทาสีกันน่ะค่ะ” จุ๊บๆ จึงต้องรีบไขข้อข้องใจให้น้องกิ๊กว่า ที่พี่จะไปกันครั้งนี้ คือไปบริจาคหนังสือกับของเล่นกันค่ะคุณน้อง เราจะเดินทางไปคุระบุรีกัน ไม่ได้ไปทาสีเน้อ :) แทนที่น้องกิ๊กจะกลับไปด้วยความผิดหวัง กลับบอกว่า “อืมม.. เหรอคะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ ไปบริจาคของก็ได้ แต่เสียดายที่ไม่รู้ เพราะของที่บ้านมีเพียบ ไว้จะเอามาให้ทีหลังนะคะ” ---- รีบตอบกลับไปว่า "ได้เลย ได้เลย" ใครที่ยังมีหนังสือและของเล่นคั่งค้างอยู่ ก็สามารถนำมาบริจาคที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตได้อีกนะคะ ขนาดเช้าวันที่ 3 เม.ย.ก่อนจุ๊บๆ จะออกเดินทางก็ยังมีกองหนังสือมหึมามาวางอยู่ในกล่องอีกเพียบ เลยคิดไว้ในใจว่า เราจะเก็บหอมรอมริบไปเรื่อยๆ แล้วฤกษ์งามยามดีได้ของเยอะเมื่อไหร่ พี่จุ๋มกับจุ๊บๆ ก็ค่อยทยอยขนของทั้งหมดไปที่วัดอีกสักรอบ จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมหลวงพ่อ มาเฟีย และห้องสมุดด้วย :)
จากนั้นพี่กอและพี่ๆ จาก AIS ก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาลฯ 8 คน 2 คัน เมื่อพร้อมแล้วทุกคนก็ขึ้นรถ โดยพี่จุ๋มกับพี่กระแตขับรถตู้บรรทุกสิ่งของ(ไปเจอกันระหว่างทาง) รถตู้ของโรงพยาบาลฯ ก็มีอาจารย์บดินทร์, ป้าแป๋วและเพื่อนสาว, น้องกิ๊กและน้องเกด, พี่แคทอาสาสมัครอ่านหนังสือเสียง, โดยมีอ๊อดๆ ขับรถให้
จุ๊บๆ ทำหน้าที่สารถีพาพี่โอ๋ ยุงดอง และน้องอิ๋งๆ ไปให้ถึงวัดสามัคคีธรรม โดยสวัสดิภาพ เจอหูหมูเป็นรูระหว่างทาง เจอหมอก เจอป่ายางเขียวๆ ก็ได้ชื่นใจกันไป น้องอิ๋งๆ นั่งจับเวลาอยู่ด้านข้าง และสรุปเวลารวมให้เมื่อถึงที่หมายว่า จุ๊บๆ ขับไวมาก 2 ชม.ครึ่งก็ถึงแล้ว โอววว...
เมื่อถึงวัด ลุงป้าน้าอาก็ช่วยกันขนของ ส่วนมาเฟียที่เดินตามหลังหลวงพ่อก็ต้องเขินอีกครั้งเมื่อเราพบกัน วันนี้มาเฟียปะแป้งหน้าขาว เดินนำหน้าลูกน้องอีก 2 คน หลวงพ่อรับหน้าที่พิธีกร และคอยกำกับให้ช่วยกันจัดองค์ผ้าป่าให้เรียบร้อย มองไปในป่า(ปลอม) ก็รู้สึกดี และคิดว่าแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ มีทั้งเงินมีทั้งตุ๊กตามีทั้งหนังสือวางปะปนกันเต็มไปหมด ซึ่งของทั้งหมดนี้ มาจากบ้านกี่หลังก็ไม่รู้ หนังสือเล่มที่ใครคนนึงเคยอ่าน พี่หมี พี่กะรอก พี่กระต่ายที่เคยโดนใครคนนึงกอดมาก่อนแล้ว แต่วันนี้..ก็ยอมยกให้ด้วยน้ำใจอันดีงาม หลวงพ่อนำพวกเรากราบพระ อาราธนาศีล ก่อนจะแสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ และทำพิธีถวายองค์ผ้าป่าตามขนบธรรมเนียม
จากนั้นพระครูสุวัตถิธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม (ป่าส้าน) เมตตาแสดงธรรม เป็นเวลาประมาณ 20 นาที โดยท่านได้บอกกับพวกเราว่า “ทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่น เป็นการใช้คำได้เหมาะเจาะ ทอดผ้าป่าในอดีตนั้น พระสงฆ์ต้องไปหาผ้าที่คนเค้าทิ้งแล้ว ผ้าที่คนเค้าไม่ใช้แล้ว นั่นก็คือผ้าห่อศพ มีคราบน้ำเหลือง คราบเลือด เมื่อได้มาก็นำมาทำความสะอาดและย้อมสี เป็นจีวรห่มกาย ถ้าผืนเล็กก็ต้องเย็บต่อกันจนนำมาใช้งานได้ ซึ่งไม่ต่างจากการทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่นในครั้งนี้ ที่เป็นของที่เค้าไม่เอาแล้ว ของที่เค้าเล่นเสร็จแล้ว เป็นหนังสือที่เค้าอ่านเสร็จแล้ว ทำให้เกิดบุญกุศลแก่ผู้ให้ และเกิดประโยชน์แก่ผู้รับอย่างแท้จริง กิจกรรมนี้ไม่ต่างอะไรจากการ “ขอ ให้ และรับ” แต่ที่มันมีคุณค่ามากยิ่งกว่าคือ น้ำใจและกุศลที่ได้ให้ มันบังเกิดผลงดงามแก่ผู้รับได้มากกว่าการขอและรับตามธรรมดา หลวงพ่อฝากพวกเรามาขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวภูเก็ต ลูกเล็กเด็กแดงที่ยอมยกของรักของหวงมาให้เพื่อนที่ขาดโอกาส ของเหล่านี้จะเติมเต็มให้ห้องสมุดดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ดึงดูดเด็กๆ ได้มากขึ้น มีหนังสือให้เด็กและผู้ใหญ่เข้าไปหาความรู้ ความเพลิดเพลินได้มากขึ้น หลวงพ่อฝากพวกเราขอบคุณทุกท่านจากใจจริง
อ.บดินทร์ ถวายเงิน 20,000 บาท จากบริษัท ภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนลลอว์เฟิร์ม จำกัด ให้หลวงพ่อ พร้อมกับบอกว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ทนายความของบริษัทฯ ว่าความชนะ จึงได้เก็บรวบรวมเงินส่วนหนึ่งไว้ทำบุญร่วมกัน ส่วนพี่จุ๋มก็เป็นตัวแทนมอบเงินที่พวกเรารวบรวมมาได้ประมาณ 4,400 บาท และสุดท้ายพี่กระแตก็ได้มอบเงิน 10,000 บาท เพื่อสมทบทุนการดำเนินงานของห้องสมุดเด็กต่อไปอีกด้วย
ไปวัดครั้งนี้ มีเหล่าเณรน้อยที่เตรียมตัวจะบวชภาคฤดูร้อน นั่งอยู่เป็นกลุ่ม โดยมีพระพี่เลี้ยงคอยดูแลความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ขนาดเดินไปห้องน้ำยังมีหลวงพี่คอยประกบ เราเองมองตามไปยังนึกขำ เด็กผู้ชายวัยนี้ ไม่ได้กระโดดโลดเต้น ต้องมานั่งหลับตานิ่งๆ จะทนกันได้อย่างไร แต่ก็นึกชื่นชมที่หลวงพ่อสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบ หลวงพี่ที่คอยดูแลก็แลดูเหมือนจะสามารถรับมือกับเหล่าเณรน้อยได้อยู่หมัดทีเดียว แถมยังมีเวลาช่วงกลางวันหลังหม่ำข้าว ก็เหล่าว่าที่เณรน้อยได้ปลดปล่อย เล่นกันจนสนามเด็กเล่นสะเทือน ก่อนจะกลับมานั่งนิ่งๆ อีกครั้ง :)
พวกเราได้ฝากท้องกันที่วัดอีกหน ด้วยความเกรงใจ(อย่างแรง) ที่ได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยมไม่ต่างจากครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 หลวงพ่อประกาศหลายครั้งว่า ทางวัดมีเพียงข้าวสวยกับน้ำปลา ส่วนอาหารที่วางมากมายอยู่บนโต๊ะนั้นเป็นของญาติโยมที่ศรัทธาในพุทธศาสนา นำมาช่วยกันคนละหม้อสองหม้อ หากอร่อยหรือไม่อร่อยอย่างไร ก็ให้ไปบอกกันเอง :) จะสารภาพว่า ทุกครั้งที่ไปวัด จะรู้สึกตื้นตัน บอกไม่ถูก มันเหมือนกับคนอิ่มๆ แล้วมันกินอะไรไม่ลง (คิดไปเองรึเปล่าก็ม่ายรุ) รู้สึกดีกับน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี เดินผ่านโต๊ะ เห็นแกงพร่องไปหน่อยเดียวก็เอามาเปลี่ยนใหม่ให้แล้ว คำขอบคุณของพวกเราคงไม่เพียงพอกับน้ำใจและมิตรภาพดีๆ ที่ได้รับมาด้วยความจริงใจในครั้งนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้ไปเยี่ยมชมห้องสมุดที่สุดโล่ง มีน้องๆ มาระบายหินกันเป็นกลุ่มๆ โดยน้องแหม่ม(บรรณารักษ์) คอยบอกดูแลอย่างใกล้ชิด งานนี้ยุงดองก็เนียนๆ เข้ากลุ่มร่วมระบายสีกับน้องๆ เหมือนเดิม ตัวเราเองเดินไปรอบๆ เห็นเหล่าเณรน้อยได้ปลดปล่อยเล่นกันอย่างเบิกบานใจที่สนามเด็กเล่นข้างห้องสมุด หลวงพี่ยืนดูความเรียบร้อยอยู่ใกล้ๆ ดูไปก็ยิ้มไป ชอบในความน่ารัก เสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ พาให้หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก ก่อนกลับ น้องๆ วิ่งมาหาเป็นพรวน เพราะจะเอาหินที่ระบายสีไว้นั้นมามอบให้พวกเราเป็นที่ระลึก เสียดายที่รถอาจารย์บดินทร์กับพี่ๆ จาก AIS กลับไปก่อน จึงไม่ได้รับกับมือเด็กๆ เอง แต่จุ๊บๆ ก็เก็บมาฝากแล้วเรียบร้อย แล้วค่อยนัดวันรับหินกันเน้อ :)
ขากลับ นั่งคิดภาพย้อนหลัง ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาสำรวจวัดกับพี่จุ๋ม ผ่านมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ เพื่อนรักที่รักจะมาด้วยทุกครั้ง ทั้งมาเป็นเพื่อน(ทั้งที่เป็นกันอยู่แล้ว) ทั้งมาช่วย เพื่อนๆ ที่อาสามาช่วยขนของ น้องๆ ฝึกงานที่จับพลัดจับผลูมาฝึกงานในฤดูที่จุ๊บๆ รับบริจาคข้าวของทุกครั้ง พี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ที่ช่วยกันอย่างแข็งขันในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ ไปถึงผู้ให้ ที่ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์อันงดงามเสมอ และสุดท้ายขาดไม่ได้เลยก็คือเหล่าแนวร่วมใจดีทุกคนที่หอบเอาน้ำใจไมตรีอันอบอุ่นมาให้ชื่นใจ และมันเป็นเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งที่คิดถึงอีกด้วยนะ จะบอกให้ หุหุ
ขอบคุณจริงๆ ค้าบบบ..
~~ รอติดตามกิจกรรมแจร่มๆ ในอนาคตนะคะ จุ๊บๆ จะจัดส่งให้ในลำดับต่อไปค่ะ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น